วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภาคคำสาปสายรุ้ง


หลังจากจบภาคสืบทอดมรดก มาม่อนได้รับจดหมายจากรีบอร์นเรื่องการกลับสู่ร่างเดิม ซึ่งมาม่อนเห็นเป็นกระดาษเปล่าซึ่งนั้นเป็นรหัสลับเฉพาะของอัลโกบาเลโน่ต้อง ใช้แสงของพลังไฟจากจุกนมจึงจะมองเห็น ซึ่งในจดหมายนั้น เป็นการบอกเล่าคำสาปที่ทำให้อัลโกบาเลโน่เป็นเด็กตัวเล็กๆและในจดหมายก็บอก ไว้ว่าอาจทำให้เหล่าอัลโกบาเลโนเป็นอย่างเดิมได้ ทั้งที่มาม่อนยังอ่านจดหมายไม่จบก็โดน เบล พาไปที่ห้องอาหารเพื่อประชุม หลังจากที่มาม่อนมาแล้วสเปลบี ก็บอกหัวข้อประชุมคือ จะให้ช่วยหาหัวหน้าคนใหม่ของวาเรีย.. ซึ่งนั้นก็คือฟราน หลังจากจบการประชุม มาม่อนก็ไปหาที่ลับในการอ่านจดหมายต่อแต่มีส่วนนึงที่อ่านไม่ได้ซึ่งนั้นก็ เป็นส่วนสำคัญมากด้วย จากนั้นวาเรียก็พากันเดินทางไปที่ ฝรั่งเศสซึ่งฟรานอยู่ที่นั้นและที่นั้นก็มี จุกนมฤดูใบไม้ผลิอยู่ด้วยซึ่งจุกนมฤดูใบไม้ผลิจะทำให้พลังแสงของจุกนมสว่าง ขึ้น ทำให้อ่านส่วนที่อ่านไม่ออกได้ พอมาถึงฝรั่งเศส ก็เดินทางไปที่บ้านของฟรานและเจอกับย่าของฟราน พอถามก็พบว่าฟรานอยู่ที่น้ำตก พอวาเรียไปที่น้ำตกก็เจอกับ โรคุโด มุคุโร่ กับเพื่อนของเขาซึ่งทั้ง2 ก็มาตามหาตัวฟรานเหมือนกัน พอเจอฟรานก็พบว่าฟรานนั้นไม่ได้ใส่หมวกกบแต่ใส่หมวกแอ๊ปเปิ้ลแทน จังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจที่ตัวฟรานมาม่อนก็อาศัยโอกาส ไปหาจุกนมฤดูใบไม้ผลิ พอไปถึงก็พบกับเหล่าอัลโกบาเลโน่ ซึ่งแต่งละคนก็อ่านจดหมายส่วนนึงไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่ออัลโกบาเลโน่นำกระดาษมารวมกันแล้วใช้จุกนมที่ส่องแสงไปพร้อมๆกัยจะ ทำให้เห็นส่วนที่ขาดไป ซึ่งในนั้น มีข้อความเกี่ยวกับไฟธาตุที่8 กับเบอร์มิวด้า วอน-วิตเท่นสไตน์ และอัลโกบาเลโน่ที่จุกนมสีใส!!?และต่อจากนั้น รีบอร์นก็ได้นึกย้อนถึงช่วงเวลาที่ตนได้กลายเป็นอัลโกบาเลโน่ ซึ่งได้พบกับเหตุการ์ณที่ได้เจอบุรุษผู้หนึ่งซึ่งต้องการให้เกิด"คำสาบจากสี รุ้ง" ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วคือการสาปคำสาปอัลโกบาเลโน่และบุรุษผู้นั้นจะ ทำ...ให้อัลโกบาเลโน่ค้นหาตัวแทนมาต่อสู้กันโดย รีบอร์น-ดีโน่และสึนะ(วองโกเล่ แฟมิลี่และคาบัคโรเน่ แฟมิลี่) สคัล-ชิม่อนแฟมิลี่(กลุ่มของเอ็นมะ) มาม่อน-วาเรีย เวลเด้-โกคุโย(กลุ่มมุคุโร่) ฟง-ฮิบาริ โคโลเนโล่-ที่ปรึกษานอกแก๊งค์ของวองโกเล่ ยูนิ-มิลฟิโอเล่แฟมิลี่ โดยมีเบียคุรันเป็นหัวหน้า
(ทางด้านฟรานได้ตัดสินใจไปอยู่กับมุคุโร่และเป็นตัวแทนในทีมของมุคุโร่เช่นกัน)
ปัจจุบันทีมของฟงและยูนิได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทางด้านทีมของสคัลก็โดนโจมตีจากอัลโกบาเลโน่คนที่8 และโดนแย่งชิงนาฬิกาทั้งหมดไป
สาเหตุ :ทีมยูนิ-เบียคุรันซึ่งเป็นบอสในศึกครั้งที่2 ถูกโคโรเนโร่ที่คำสาปคลายชั่วคราวโจมตี และถูกทำลายนาฬิกาบอส
:ทีมฟง-ฮิบาริต่อสู้กับซันซัสแล้วเสมอ และหมดเวลาการแข่งขัน
 แต่ฮิบาริต้องการที่จะสู้กับซันซัสต่อ แต่ถ้าจะสู้ต่อ
 โดยที่หมดเวลาแล้วจะถูกปรับฟาวน์ทั้ง2ทีม ฮิบาริจึงเลือกทำลายนาฬิกาตนเอง
 เพื่อยอมทิ้งสัญญากับฟงที่ว่าถ้าทีมฟงชนะจะได้มา สู้กับฟง แล้วมาสู้กับซันซัสต่อ 
แต่ซันซัสที่อยากสู้ต่อถูกพวกสควอลโล่จับตัวไว้ และฮิบาริก็ถูกดีโน่ห้ามไว้
:ทีมสคัล-ยังไม่ถือว่าแพ้ แต่โดนเบอมิวด้า วอน วิทเท่นสไตน์แย่งชิงนาฬิกาไป 
และชิม่อนทั้งหมดก็อยู่ในสภาพปางตายจากการโจมตีของวินดิเช่

ภาค สืบทอดมรดก


ชิม่อนแฟมิลี่รุ่นที่ 10 โคซาโตะ เอ็นมะ เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต เมื่อสมัยรุ่นที่ 1 ได้ย้ายโรงเรียนมาที่โรงเรียนนามิโมริ และได้ต่อสู้แก้แค้น กับวองโกเล่แฟมิลี่ในช่วงที่กำลังมีพิธีสืบทอดมรดกจากรุ่นที่ 9 ชิม่อนแฟมิลี่ได้ช่วงชิง "บาป" ซึ่งคือเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 (ชิม่อน โคซาร์ท) ชิม่อนแฟมิลี่ได้จับตัว โครม โดคุโร ไปและได้ทำลายเหวนวองโกเล่ทิ้งเหลือเพียงไม่กี่วงแต่ ผู้เฒ่า ทัลบอล ก็ปรากฏตัวขึ้น ได้ซ่อม และอัพเกรดแหวนวองโกเล่ให้เป็นวองโกเล่เกียร์ โดยใช้เลือดของวองโกเล่รุ่นที่ 1 จิอ๊อตโต้ มีพลังมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้สามารถมีพลังทัดเทียม ชิม่อนริง ที่ได้รับเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 โคซาร์ท ในการต่อสู้กันของวองโกเล่แฟมิลี่ และ ชิม่อนแฟมิลี่ ในรุ่นที่ 10 นั้น เกิดขึ้นที่เกาะแห่งหนึ่ง เป็นการต่อสู้ที่เหมือนเล่นเกมกัน ไม่จำเป็นต้องน็อคคู่ต่อสู้ เมื่อจบการต่อสู้แต่ละคู่ วินดีเช่ ได้เปิดเผยนิมิตเหตุการณ์จริงในสมัยรุ่นที่ 1 ในแก่ ว่องโกเล่แฟมิลี่ และชิม่อนแฟมิลี่ ทราบทีละเหตุการณ์สำคัญ และผู้แพ้ต้องถูกนำตัวขังคุกน้ำ ของวินดีเช่ ตลอดกาล โดย
คู่แรก ซาซางาวะ เรียวเฮ กับ อาโอบะ โคโย ได้ผลเป็น เสมอ (ถือว่าแพ้ทั้งคู่)
คู่ที่สอง แรมโบ้ กับ โอย่าม่า ราวจิ ได้ผล แรมโบ้ ชนะ (โดย แรมโบ้หนุ่มออกมาต่อสู้ให้)
คู่ที่สาม โกคุเดระ ฮายาโตะ กับ ซิท พี ได้ผล โกคุเดระ ฮายาโตะ ชนะ
คู่ที่สี่ ฮิบาริ เคียวยะ กับ ซูซูกิ อดีลไฮด์ ได้ผล ฮิบาริ เคียวยะ ชนะ
โดยก่อนหน้าพิธีรับสืบทอดมรดก ยามาโมโตะ ทาเคชิ ถูก มิซูโนะ คาโอรุ 1 ใน ชิม่อนแฟมิลี่ ทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เข้าร่วมศึกไม่ได้ แต่ภายหลังได้ไปตามไปสมทบ คาดว่าได้เบียคุรันช่วยไว้
คู่ที่ห้า ซาวาดะ สึนะโยชิ กับ โคซาโตะ เอ็นมะ ซึ่งเอ็นมะ ได้รู้ความจริงแล้วว่า พรีโม่ จิอ๊อตโต้ ไม่ได้ทรยศ โคซาร์ท แต่ถูกพลังของแหวนควบคุม ได้ผลเป็น ซาวาดะ สึนะโยชิ ชนะ
ระหว่างนั้น คาโต้ จูลี่ย์ 1ในชิม่อนแฟมิลี่ ได้ถูกเดม่อน สเปดสิงร่าง และยังควบคุมจิตใจของ โครม โดคุโร หลอกล่อให้ โรคุโด มุคุโร่ ออกมาสู้กับตน
คู่ที่หก โรคุโด มุคุโร่ (ในร่างโครม โดคุโร) กับ เดม่อน สเปด (ในร่างคาโต้ จูลี่ย์) ได้ผล โรคุโด มุคุโร่ ชนะ
เมื่อ เดม่อน สเปด แพ้ได้ออกจากร่างของ คาโต้ จูลี่ย์ ไปสิงร่างของ โรคุโด มุคุโร่ ในคุกวินดีเช่แทน ทั้งหมดของแผนของเดม่อน สเปดที่ต้องการทำให้วองโกเลแฟมิลี่ที่เอลีน่า คนที่เดม่อน สเปดรักที่สุด เป็นแฟมิลี่ที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากยึดร่างของ โรคุโด มุคุโร่ แล้วนั้น ก็ได้อาละวาด แหกคุกมาจัดการพวกวองโกเล่ ในขณะที่ โรคุโด มุคุโร่ กลับร่างตัวเองไม่ได้ จึงสิงที่นกฮูกสายหมอกแทน เรื่องทั้งหมดเป็นการวางแผนกันของพรีโม่ และโคซาร์ท โดยให้ พวกวินดีเช่ทำหน้าที่ วินดีเช่ได้ขอให้ ซาวาดะ สึนะโยชิ จัดการ เดม่อน สเปด เพื่อแลกกับการปล่อยตัวทุกคนออกจากคุกน้ำแห่งวินดีเช่
ในการต่อสู้ ของ เดม่อน สเปด ที่ยึดร่าง โรคุโด มุคุโร่ ได้สำเร็จนั้น มีพลังมากมาย และสามารถใช้พลังของวองโกเล่ และ ชิม่อน รวมกันได้ ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่สามารถต่อสู้ได้ ระหว่างนั้นชิม่อนริงของ เอ็นมะ ไปบินไปหา สึนะ แหวนทั้งสองเกิดการรวมกัน ซึ่งแหวนที่ได้ คือกุญแจดอกสุดท้ายที่มีความทรงจำระหว่างวองโกเล่ กับ ชิม่อน รุ่นที่ 1 จากการเสียสละของ เอ็นมะ ที่ได้ใช้ตัวเองล็อกตัวเดม่อน สเปดไว้ แล้วให้สึนะยิง XX Burner และ โครม โดคุโร่ ได้ใช้พลังแห่งหมอก ร่วมกับนกฮูก ปกป้องเอ็นมะ ไว้ได้ เดม่อน สเปด จึงพ่ายแพ้ไป และได้เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวกับเอลีน่าให้พวกสึนะฟัง

ภาค Final Battle


ซาคุโร่เข้ามาชิงตัวยูนิในฐานทัพวองโกเล่และเยาะเย้ยดูถูกพวกของสึนะ จนยามาโมโตะ และโกคุเดระทนไม่ไหวจึงจะเข้าไปสู้ แต่สควอโล่มาขวางไว้และบอกว่าจะเป็นคนไปสู้เอง และบอกให้พวกสึนะพายูนิหนีไปสึนะและพวกจึงคิดว่าจะหนีไปซ่อนที่ไหน และแล้วฮารุก็บอกว่าให้ไปที่ร้านอาหาร เพราะฮารุรู้จักกับคนในร้าน ในขณะที่กำลังจะไปเสียงร้องของสควอโล่ก็ดังขึ้น พวกสึนะจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าสควอโล่บาดเจ็บสาหัส แขนขาดไปหนึ่งข้าง และฐานวองโกเล่ก็พังยับเยินด้วยฝีมือของ ซาคุโร่ สควอโล่บอกให้พวกสึนะไปโดยเร็วที่สุด พวกสึนะจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึงกลับพบว่าร้านปิด จึงตะโกนเรียกทันใดนั้นก็มีชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อคาวาฮิระ ออกมาบอกว่าเจ้าของร้านเสียไปแล้ว และ ก็บอกกับพวกสึนะว่าให้เข้ามาหลบก่อน คาวาฮิระช่วยไล่ซาคุโร่ไปยังภูเขาไฟฟูจิ และหลังจากนั้นคาวาฮิระก็ได้ให้พวกสึนะฝากร้านไว้ แต่กลับโดนโทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่แกมม่ามาช่วยทัน โทริคาบุโตะแปลงเป็น ไนท์เบน ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก สึนะกำลังลำบาก โคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอาเลนส์ปีศาจ ดี.สเปเด้มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X-Burner ของสึนะและถอยทัพไป ทางด้านเบียกคุรันที่นอนซมไข้เพราะใช้วิชามองอนาคตตามหายูนิก็กำลังให้ ไอริสจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่งชื่อ โกสต์ ที่คุกวินดิเช่ ฟรานได้ปลอมตัวเป็นไอริสแล้วแล้วขออนุญาต โรคุโด มุคุโร่ และได้เจอกับเคน จิคุสะและ M.M พวกสึนะได้เดินทางกลับไปที่ป่าที่มีโลงศพของสึนะ และได้พักแรมที่นั่น แกมม่า โนซารุและทาซารุได้มีปากเสียงกับโกคุเดระและอิริเอะ โชอิจิ แต่ยูนิมาห้ามไว้แล้วเล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจากลูเช่ หรือคุณยายของยูนิ รัล มิลจิ ได้บอกความจริงว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (เป็นสาเหตให้ลูเช่ อาเรีย ได้ป่วยและเสียชีวิต) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถพิเศษจะยิ่งเสื่อมไป แต่ยูนิได้บอกกับทุกคนว่าเธอรู้มานานแล้วว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเบียคุ รันในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้นวองโกเลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม ที่ 1 ดักอยู่ริมทะเลสาบ กลุ่มที่ 2 ดักอยู่ที่ป่า และกลุ่มที่3 เป็นกองกำลังปกป้องยูนิ กลุ่มแรกเรียวเฮ แรมโบ้ได้เจอกับคิเคียว (เมฆา) และคิเคียวก็ได้ใช้กล่องแร็พเตอร์ลงมือทำร้ายกลุ่มหนึ่งก่อน พอเห็นแรมโบ้ดูเหมือนจุดอ่อนจึงให้ฝูงแรพเตอร์เล็งไปที่แรมโบ้ เรียวเฮจึงงัดทีเด็ดโดยพูดให้แรมโบ้คิดถึงแม่ของสึนะ ด้วยความคิดถึงแม่ของสึนะแรมโบ้ร่างเด็กได้จุดไฟอัสนีที่แหวนขึ้นโดยไม่รู้ ตัวและเปิดกล่อง BOX Vongola ได้มีกระทิงอัสนีออกมาและคอมบิโอฟอมาร์เป็นเกราะอัศนี จัดการฝูงแรพเตอร์จนหมดแล้วต่อมาพวกวาเรียและพวกของโรคุโด มุคุโร่ได้เดินทางมาที่นามิโมริซันซัสได้จัดการคิเคียว (ไม่ตาย) จากนั้นโกส (ธาตุ อัสนีของมิลฟีโอเล่) ก็ ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนและได้ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของกลุ่ม1และ2ไปจนหมดรวม ทั้นซันซัสด้วย จากนั้นรีบอร์นบอกสึนะให้ไปช่วย (ที่จริงโกสเป็นแค่กลุ่มก้อนไฟเท่านั้น) สึนะจนใช้วิชา เดือดทะลุจุดศูนย์ดัดแปลง ศึกครั้งนี้เป็นศึกดูดพลัง และแล้วโกสก็สลายไป จากนั้นก็มาถึงจุดวิกฤตสุดๆ คือ เบียคุรันปรากฏตัวสึนะได้สู้กับเบียคุรันแต่สู้ไม่ได้ รุ่นที่1 จึงปลดปล่อยพลังของสึนะๆจึงมีพลังของแหวนให้ และยูนิกับแกมม่าจะยอมสละชีพเพื่อคืนชีพให้กับอัลโกบาเลโน่ทั้งหมด สึนะจึงใช้ x-burner สังหารเบียคุรัน ศึกครั้งนี้เบียคุรันตาย ยูนิและแกมม่าได้สละชีวิตเป็นที่เสียใจของทุกคน แล้วทุกคนก็ได้กลับอดีต

ภาค Choice


หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาที่ครอบครองแหวนมาเล่และแหวนมาเล่ทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น โชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกันจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะคือมอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่อง ชน เพื่อใช้ในการแข่งChioce Warกับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะเละสปาน่า ทางฝ่าย 6 บุปผาอาลัยได้ส่งตัวแทนคือ เดซี่ (อรุณ) คิเคียว (เมฆา) โทริคาบูโตะ (สายหมอก) และอัศวินมายา ในระหว่างการต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิเคียว (ตาย) ฝ่ายวองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียกคุรัน ทันใดนั้น ยูนิก็เดินมาขอให้เบียกคุรันถือผลการแข่งขันว่าเป็นโมฆะและจะลาออกจากมิลฟี โอเล่ แต่เบียคุรันไม่ยอม ขู่จะทำร้ายยูนิ แต่ว่ามุคุโร่ก็มาปกป้องยูนิและบอกว่าตัวเองนั้นยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ และรีบบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริ เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้ตามมาที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ ดีโน่ในอนาคต โรมาริโอ และคุซาคาเบะได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และเดซี่แปลงเป็นจิ้งจกอรุณ งอกแขนขาได้ ดีโน่แพ้ แต่ถูกจัดการโดยฮิบาริโดยอาวุธกล่อง วองโกเล่ กุญแจมืออารันดันดี คนอื่นรออยู่ที่ฐานทัพลับ ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมกับการปรากฏตัวของซาคุโร่วายุ

ภาคพิเศษ อัลโกบาเลโน่



 หลังจากจบศึกที่ฐานทัพเมโลเน่ สึนะได้รับกล่อง Vongola มาแต่ไม่สามารถใช้มันได้ อิริเอะ โชอิจิบอกกับเขาว่า การที่จะเปิดกล่องได้ จำเป็นจะต้องกลับไปยังอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เพื่อรับการทดสอบจากอัลโกบาเรโน่ทั้ง 7 โดยการกลับไปของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนั้น ในโลกในอดีต พวกเขาหายไปเพียงแค่สามวันเท่านั้น และอิริเอะก็ได้บอกให้พวกเขาสร้างเรื่องว่า ไปปิคนิคกันแล้วหลงทาง เมื่อทุกคนกลับไปอดีต ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น รีบอร์นได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆของอัลโกบาเรโน่แต่ละคนให้พวกสึนะฟัง อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดประกอบด้วย
  1. โคโรเนโร่ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุพิรุณ อดีตหัวหน้าหน่วยคอมมุสบินของอิตาลี มีอาวุธคือปืนไรเฟิล
  2. สกัล (หรือสคัล) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุเมฆา สตั๊นท์แมนผู้ได้รับฉายาว่า สกัลอมตะ สกัลผู้กลับมาจากนรก
  3. เวลเด้ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอัสนี นักวิทยาศาตร์อัจฉริยะ ผู้สร้างกล่อง (ร่วมกับ เคนิตฮ์ และ อิโนเซนตี้) ในอีกสิบปี
  4. ไวเปอร์ (มาม่อน) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุสายหมอก เป็นอัลโกบาเลโน่ที่เห็นแก่เงินที่สุด เพศหญิงแต่มักโดนเข้าใจผิดว่าเป็นเพศชาย สามารถสร้างภาพมายาให้กลายเป็นจริง และทำให้สิ่งที่มีจริงกลายเป็นภาพมายาได้ เป็นผู้พิทักษ์สายหมอกของกลุ่มลอบสังหารวาเรียด้วย(ภาคอนาคตได้ตายไปฟรานจึง มาแทน)
  5. ฟง ผู้ครอบครองจุกนมธาตุวายุ นักสู้อัจฉริยะอันดับหนึ่งของการแข่งขันกังฟูทัวร์นาเม้นท์ของจีน หน้าตาและทรงผมเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ แต่มีเปียยาวด้านหลัง เป็นอาจารย์ของอี้ผิง
  6. รีบอร์น ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอรุณ เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดในหมู่มาเฟียและเป็นครูสอนพิเศษของสึนะและม้าพยศดีโน่ด้วย
  7. อาเรีย (แม่ของยูนิ) (มาแทนลูเช่ที่เสียชีวิตเพราะคำสาปของอัลโกบาเลโน่เฉพาะธาตุนภาเท่านั้น) (ลูเช่เป็นยายของยูนิ) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุนภา เป็นหัวหน้าของอัลโกบาเลโน่ แม่ของรองหัวหน้ามิลฟีโอเล่แฟมิลี่ ยูนิ ในภาคพิเศษอัลโกบาเลโน่จะเป็นอาเรียซะส่วนใหญ่ จะมีพูดถึงลูเช่ช่วงย้อนความก่อนเป็นอัลโกบาเลโน่
การทดสอบครั้งแรก : การทดสอบของโคโรเนโร่ ฝึกทดสอบด้านกำลังรบ โดยจะต้องหยิบเข็มกลัดที่มีเลข 01จากผ้าโพกหัวของโคโรเนโร่ให้ได้
การทดสอบครั้งที่สอง : การทดสอบของสกัล ทดสอบในด้านสเน่ห์ จะต้องพยายามหยุดการต่อสู้กันระหว่างโรคุโด มุคุโร่ กับ ฮิบาริ เคียวยะให้ได้
การทดสอบครั้งที่สาม: การทดสอบของมาม่อน (ไวเปอร์) ฝึกเกี่ยวกับ ความสามารถในการดัดแปลงและด้านปัญญา โดยจะให้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในนามิโมริเมื่อเจอคำตอบจะต้องทำภารกิจที่ มาม่อนบอก ซึ่งภารกิจคือ เอาตัวรอดจากมาม่อนโดยใช้อาวุธกล่องทั้ง 3
การทดสอบครั้งที่สี่ : การทดสอบของฟง ทดสอบด้านความเป็นผู้นำ โดยจะต้องไล่จับฟงในโรงเรียนภายในเวลา30นาทีให้ได้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด3คน ได้แก่ ซาวาดะ สึนะโยชิ,แรมโบ้,มิอุระ ฮารุและอี้ผิงที่ปรากฏตัวภายหลังได้เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกๆของการทดสอบ เหล่าทุกคนได้พยายามไล่จับฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับจับตัวฟงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งหมดจะใช้อาวุธไล่โจมตีฟงเพื่อให้ฟงต้องหยุดก็ตาม จนผู้ทดสอบทั้งหมดเริ่มท้อกับการทดสอบ สึนะจึงปลอบใจ และเพิ่มกำลังใจผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ และเริ่มใช้กลยุทธ์ แต่กลยุทธ์นี้กลับพลาดเพราะฮิบาริดันมาเจอเข้า ด้วยความกลัวสึนะก็เลยจับตัวฟงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จับตัวฟงจนได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า "ลมหน่ะยิ่งตามยิ่งหนี"
การทดสอบครั้งที่ห้า : การทดสอบของอาเรีย ทดสอบด้านความอดทนในการยอมรับความเห็นผู้อื่น โดยสึนะจะต้องคอยทำตามคำขอร้องของอาเรียไปเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเป็นอัลโกบาเรโน่หรือเปล่า
การทดสอบครั้งที่หก : การทดสอบของรีบอร์น ทดสอบด้านความสามัคคีของบอส โดยจะต้องต่อสู้กับรีบอร์นแบบ7ต่อ1 (ผู้พิทักษ์ทั้ง6และหัวหน้า VS รีบอร์น) โดยที่สี่คน (โกคุเดระ ฮายาโตะ,ยามาโมโตะ ทาเคชิ,โคลม โดคุโร่,และซาซางะวะ เรียวเฮ) ล้วนแต่ใจอ่อนต่อรีบอร์น จึงไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นเท่าไรนักมีเพียง ฮิบาริ เคียวยะ ที่สนุกกับการต่อสู้นี้ และในขณะที่รีบอร์นจริงจังกับการต่อสู้มาก จนทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งห้าหมดสติลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรมโบ้ ก็ได้แต่นอนอย่างไม่รู้เรื่องอะไรลย จนทำให้เหลือสึนะเพียงคนเดียว จึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสึนะกับรีบอร์น ในช่วงท้ายๆของการทดสอบ รีบอร์นออมมือให้สึนะเล็กน้อย จนสึนะได้โอกาสยิงX-Burner Air แต่ว่า เพราะสึนะไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นมากไปกว่านี้ สึนะจึงหยุดยิงX-Burner Airจนทำให้สูญเสียโอกาสสุดท้ายไป และถูกรีบอร์นโจมตีด้วยกระสุนดับเครื่องชนจนไม่ผ่านการทดสอบในที่สุด
การทดสอบครั้งที่เจ็ด : การทดสอบของเวลเด้ ทดสอบด้านสัญชาตญาณ โดยเวลเด้ได้หลอกให้สู้กับหุ่นยนต์ที่ก๊อปปี้ตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกพวกอัลโกบาเลโน่ ทั้งหมดได้โดนจับ(รวมทั้งรันมิจิด้วย) (ยกเว้นอาเรีย เพราะเธอไม่ใช่อัลโกบาเลโน่) โดยหลังจากที่สึนะช่วยพวกนั้นมาได้ก็ได้ช่วยกันกำจัดเวลเด้แต่ตัวแรกเป็น หุ่นยนต์จึงเสียแรงฟรีเปล่าๆ แต่สึนะได้รู้สึกว่ามีฐานทับลับของเวลเด้อยู่ใกล้ๆ พวกสึนะจึงผ่านการทดสอบ
การทดสอบรอบแปด : การทดสอบของรีบอร์น (รอบสอง) ทดสอบด้ายความเชื่อใจและความพยายาม โดยตอนที่พวกสึนะฝึกกับเวลเด้ผ่านและได้พลังอัศนีของเวลเด้มา รีบอร์นก็ให้ผ่านการทดสอบ เพราะสึนะต้องการทดสอบกับรีบอร์นอีกรอบรีบอร์นเห็นว่ามีความพยายามจึงให้ ผ่านไปเลย -->

The Future ภาคท้าย x-burn





หลังจากเตรียมความพร้อมในการรบกับมิฟิโอเล่แล้ว สึนะได้รับแผนการในการบุกจากสปาน่า ที่รับคำสั่งจาก อิริเอะให้หักหลัง มิฟิโอเร่ โดยมอบทั้งแผนที่และยุทธการและการรบทั้งหมดให้กับสปาน่า แต่ตนเองทำเป็นคุมสถานการณ์ได้ โดยเมื่อเข้ามาในฐานทัพได้แล้วกลับกลายเป็นอาวุธกล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่า บล็อกฐานทัพ โดยมีผู้ใช้งานคือ อิริเอะ ไอริสและ Ginger Bread บุกเข้าไปในห้องทำงานและแล็บต่างๆของสปาน่าเพื่อตามหาสึนะและสปาน่า สุดท้ายก็หาจนพบและได้ต่อสู้กับสึนะ โดยครั้งนี้สึนะได้ใช้ Contacts ซึ่งสปาน่าเป็นผู้สร้างให้ เพื่อพัฒนา X-Burner ให้ถึงขีดสุด Contactsทำหน้าที่ควบคุมเปลวไฟสองข้างให้เท่ากัน สึนะได้ใช้ X-Burner อย่างสมบูรณ์แบบ และซึนะก็ชนะ หลังจากนั้นอัศวินมายาก็ปรากฏตัว ซึ่งสึนะได้ใช้ X-Burner ใส่แต่ไม่เป็นอะไร และเมื่อต่อสู้กันได้ไม่นานอัศวินมายากันได้แปลงร่างออกมา แต่ก็พ่ายแพ้ให้X-Burnerของสึนะอยู่ดี เมื่อสึนะบุกถึงระบบกลางได้แล้ว อิริเอะได้บอกความจริงที่ว่า ตนเองเป็นฝ่าย วองโกเล่ แล้วพวกสึนะก็ได้รู้ความจริงว่า คนที่ส่งพวกเขาทุกคนมายังยุคนี้คือตัวของสึนะในยุคนี้นั่นเอง ซึ่งแผนการนี้เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะอิริเอะ โชอิจิ สึนะ และฮิบาริในยุคนี้เท่านั้น