วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภาคคำสาปสายรุ้ง


หลังจากจบภาคสืบทอดมรดก มาม่อนได้รับจดหมายจากรีบอร์นเรื่องการกลับสู่ร่างเดิม ซึ่งมาม่อนเห็นเป็นกระดาษเปล่าซึ่งนั้นเป็นรหัสลับเฉพาะของอัลโกบาเลโน่ต้อง ใช้แสงของพลังไฟจากจุกนมจึงจะมองเห็น ซึ่งในจดหมายนั้น เป็นการบอกเล่าคำสาปที่ทำให้อัลโกบาเลโน่เป็นเด็กตัวเล็กๆและในจดหมายก็บอก ไว้ว่าอาจทำให้เหล่าอัลโกบาเลโนเป็นอย่างเดิมได้ ทั้งที่มาม่อนยังอ่านจดหมายไม่จบก็โดน เบล พาไปที่ห้องอาหารเพื่อประชุม หลังจากที่มาม่อนมาแล้วสเปลบี ก็บอกหัวข้อประชุมคือ จะให้ช่วยหาหัวหน้าคนใหม่ของวาเรีย.. ซึ่งนั้นก็คือฟราน หลังจากจบการประชุม มาม่อนก็ไปหาที่ลับในการอ่านจดหมายต่อแต่มีส่วนนึงที่อ่านไม่ได้ซึ่งนั้นก็ เป็นส่วนสำคัญมากด้วย จากนั้นวาเรียก็พากันเดินทางไปที่ ฝรั่งเศสซึ่งฟรานอยู่ที่นั้นและที่นั้นก็มี จุกนมฤดูใบไม้ผลิอยู่ด้วยซึ่งจุกนมฤดูใบไม้ผลิจะทำให้พลังแสงของจุกนมสว่าง ขึ้น ทำให้อ่านส่วนที่อ่านไม่ออกได้ พอมาถึงฝรั่งเศส ก็เดินทางไปที่บ้านของฟรานและเจอกับย่าของฟราน พอถามก็พบว่าฟรานอยู่ที่น้ำตก พอวาเรียไปที่น้ำตกก็เจอกับ โรคุโด มุคุโร่ กับเพื่อนของเขาซึ่งทั้ง2 ก็มาตามหาตัวฟรานเหมือนกัน พอเจอฟรานก็พบว่าฟรานนั้นไม่ได้ใส่หมวกกบแต่ใส่หมวกแอ๊ปเปิ้ลแทน จังหวะที่ทุกคนกำลังสนใจที่ตัวฟรานมาม่อนก็อาศัยโอกาส ไปหาจุกนมฤดูใบไม้ผลิ พอไปถึงก็พบกับเหล่าอัลโกบาเลโน่ ซึ่งแต่งละคนก็อ่านจดหมายส่วนนึงไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่ออัลโกบาเลโน่นำกระดาษมารวมกันแล้วใช้จุกนมที่ส่องแสงไปพร้อมๆกัยจะ ทำให้เห็นส่วนที่ขาดไป ซึ่งในนั้น มีข้อความเกี่ยวกับไฟธาตุที่8 กับเบอร์มิวด้า วอน-วิตเท่นสไตน์ และอัลโกบาเลโน่ที่จุกนมสีใส!!?และต่อจากนั้น รีบอร์นก็ได้นึกย้อนถึงช่วงเวลาที่ตนได้กลายเป็นอัลโกบาเลโน่ ซึ่งได้พบกับเหตุการ์ณที่ได้เจอบุรุษผู้หนึ่งซึ่งต้องการให้เกิด"คำสาบจากสี รุ้ง" ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วคือการสาปคำสาปอัลโกบาเลโน่และบุรุษผู้นั้นจะ ทำ...ให้อัลโกบาเลโน่ค้นหาตัวแทนมาต่อสู้กันโดย รีบอร์น-ดีโน่และสึนะ(วองโกเล่ แฟมิลี่และคาบัคโรเน่ แฟมิลี่) สคัล-ชิม่อนแฟมิลี่(กลุ่มของเอ็นมะ) มาม่อน-วาเรีย เวลเด้-โกคุโย(กลุ่มมุคุโร่) ฟง-ฮิบาริ โคโลเนโล่-ที่ปรึกษานอกแก๊งค์ของวองโกเล่ ยูนิ-มิลฟิโอเล่แฟมิลี่ โดยมีเบียคุรันเป็นหัวหน้า
(ทางด้านฟรานได้ตัดสินใจไปอยู่กับมุคุโร่และเป็นตัวแทนในทีมของมุคุโร่เช่นกัน)
ปัจจุบันทีมของฟงและยูนิได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทางด้านทีมของสคัลก็โดนโจมตีจากอัลโกบาเลโน่คนที่8 และโดนแย่งชิงนาฬิกาทั้งหมดไป
สาเหตุ :ทีมยูนิ-เบียคุรันซึ่งเป็นบอสในศึกครั้งที่2 ถูกโคโรเนโร่ที่คำสาปคลายชั่วคราวโจมตี และถูกทำลายนาฬิกาบอส
:ทีมฟง-ฮิบาริต่อสู้กับซันซัสแล้วเสมอ และหมดเวลาการแข่งขัน
 แต่ฮิบาริต้องการที่จะสู้กับซันซัสต่อ แต่ถ้าจะสู้ต่อ
 โดยที่หมดเวลาแล้วจะถูกปรับฟาวน์ทั้ง2ทีม ฮิบาริจึงเลือกทำลายนาฬิกาตนเอง
 เพื่อยอมทิ้งสัญญากับฟงที่ว่าถ้าทีมฟงชนะจะได้มา สู้กับฟง แล้วมาสู้กับซันซัสต่อ 
แต่ซันซัสที่อยากสู้ต่อถูกพวกสควอลโล่จับตัวไว้ และฮิบาริก็ถูกดีโน่ห้ามไว้
:ทีมสคัล-ยังไม่ถือว่าแพ้ แต่โดนเบอมิวด้า วอน วิทเท่นสไตน์แย่งชิงนาฬิกาไป 
และชิม่อนทั้งหมดก็อยู่ในสภาพปางตายจากการโจมตีของวินดิเช่

ภาค สืบทอดมรดก


ชิม่อนแฟมิลี่รุ่นที่ 10 โคซาโตะ เอ็นมะ เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต เมื่อสมัยรุ่นที่ 1 ได้ย้ายโรงเรียนมาที่โรงเรียนนามิโมริ และได้ต่อสู้แก้แค้น กับวองโกเล่แฟมิลี่ในช่วงที่กำลังมีพิธีสืบทอดมรดกจากรุ่นที่ 9 ชิม่อนแฟมิลี่ได้ช่วงชิง "บาป" ซึ่งคือเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 (ชิม่อน โคซาร์ท) ชิม่อนแฟมิลี่ได้จับตัว โครม โดคุโร ไปและได้ทำลายเหวนวองโกเล่ทิ้งเหลือเพียงไม่กี่วงแต่ ผู้เฒ่า ทัลบอล ก็ปรากฏตัวขึ้น ได้ซ่อม และอัพเกรดแหวนวองโกเล่ให้เป็นวองโกเล่เกียร์ โดยใช้เลือดของวองโกเล่รุ่นที่ 1 จิอ๊อตโต้ มีพลังมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้สามารถมีพลังทัดเทียม ชิม่อนริง ที่ได้รับเลือดของชิม่อนแฟมิลี่ รุ่นที่ 1 โคซาร์ท ในการต่อสู้กันของวองโกเล่แฟมิลี่ และ ชิม่อนแฟมิลี่ ในรุ่นที่ 10 นั้น เกิดขึ้นที่เกาะแห่งหนึ่ง เป็นการต่อสู้ที่เหมือนเล่นเกมกัน ไม่จำเป็นต้องน็อคคู่ต่อสู้ เมื่อจบการต่อสู้แต่ละคู่ วินดีเช่ ได้เปิดเผยนิมิตเหตุการณ์จริงในสมัยรุ่นที่ 1 ในแก่ ว่องโกเล่แฟมิลี่ และชิม่อนแฟมิลี่ ทราบทีละเหตุการณ์สำคัญ และผู้แพ้ต้องถูกนำตัวขังคุกน้ำ ของวินดีเช่ ตลอดกาล โดย
คู่แรก ซาซางาวะ เรียวเฮ กับ อาโอบะ โคโย ได้ผลเป็น เสมอ (ถือว่าแพ้ทั้งคู่)
คู่ที่สอง แรมโบ้ กับ โอย่าม่า ราวจิ ได้ผล แรมโบ้ ชนะ (โดย แรมโบ้หนุ่มออกมาต่อสู้ให้)
คู่ที่สาม โกคุเดระ ฮายาโตะ กับ ซิท พี ได้ผล โกคุเดระ ฮายาโตะ ชนะ
คู่ที่สี่ ฮิบาริ เคียวยะ กับ ซูซูกิ อดีลไฮด์ ได้ผล ฮิบาริ เคียวยะ ชนะ
โดยก่อนหน้าพิธีรับสืบทอดมรดก ยามาโมโตะ ทาเคชิ ถูก มิซูโนะ คาโอรุ 1 ใน ชิม่อนแฟมิลี่ ทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เข้าร่วมศึกไม่ได้ แต่ภายหลังได้ไปตามไปสมทบ คาดว่าได้เบียคุรันช่วยไว้
คู่ที่ห้า ซาวาดะ สึนะโยชิ กับ โคซาโตะ เอ็นมะ ซึ่งเอ็นมะ ได้รู้ความจริงแล้วว่า พรีโม่ จิอ๊อตโต้ ไม่ได้ทรยศ โคซาร์ท แต่ถูกพลังของแหวนควบคุม ได้ผลเป็น ซาวาดะ สึนะโยชิ ชนะ
ระหว่างนั้น คาโต้ จูลี่ย์ 1ในชิม่อนแฟมิลี่ ได้ถูกเดม่อน สเปดสิงร่าง และยังควบคุมจิตใจของ โครม โดคุโร หลอกล่อให้ โรคุโด มุคุโร่ ออกมาสู้กับตน
คู่ที่หก โรคุโด มุคุโร่ (ในร่างโครม โดคุโร) กับ เดม่อน สเปด (ในร่างคาโต้ จูลี่ย์) ได้ผล โรคุโด มุคุโร่ ชนะ
เมื่อ เดม่อน สเปด แพ้ได้ออกจากร่างของ คาโต้ จูลี่ย์ ไปสิงร่างของ โรคุโด มุคุโร่ ในคุกวินดีเช่แทน ทั้งหมดของแผนของเดม่อน สเปดที่ต้องการทำให้วองโกเลแฟมิลี่ที่เอลีน่า คนที่เดม่อน สเปดรักที่สุด เป็นแฟมิลี่ที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากยึดร่างของ โรคุโด มุคุโร่ แล้วนั้น ก็ได้อาละวาด แหกคุกมาจัดการพวกวองโกเล่ ในขณะที่ โรคุโด มุคุโร่ กลับร่างตัวเองไม่ได้ จึงสิงที่นกฮูกสายหมอกแทน เรื่องทั้งหมดเป็นการวางแผนกันของพรีโม่ และโคซาร์ท โดยให้ พวกวินดีเช่ทำหน้าที่ วินดีเช่ได้ขอให้ ซาวาดะ สึนะโยชิ จัดการ เดม่อน สเปด เพื่อแลกกับการปล่อยตัวทุกคนออกจากคุกน้ำแห่งวินดีเช่
ในการต่อสู้ ของ เดม่อน สเปด ที่ยึดร่าง โรคุโด มุคุโร่ ได้สำเร็จนั้น มีพลังมากมาย และสามารถใช้พลังของวองโกเล่ และ ชิม่อน รวมกันได้ ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่สามารถต่อสู้ได้ ระหว่างนั้นชิม่อนริงของ เอ็นมะ ไปบินไปหา สึนะ แหวนทั้งสองเกิดการรวมกัน ซึ่งแหวนที่ได้ คือกุญแจดอกสุดท้ายที่มีความทรงจำระหว่างวองโกเล่ กับ ชิม่อน รุ่นที่ 1 จากการเสียสละของ เอ็นมะ ที่ได้ใช้ตัวเองล็อกตัวเดม่อน สเปดไว้ แล้วให้สึนะยิง XX Burner และ โครม โดคุโร่ ได้ใช้พลังแห่งหมอก ร่วมกับนกฮูก ปกป้องเอ็นมะ ไว้ได้ เดม่อน สเปด จึงพ่ายแพ้ไป และได้เล่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวกับเอลีน่าให้พวกสึนะฟัง

ภาค Final Battle


ซาคุโร่เข้ามาชิงตัวยูนิในฐานทัพวองโกเล่และเยาะเย้ยดูถูกพวกของสึนะ จนยามาโมโตะ และโกคุเดระทนไม่ไหวจึงจะเข้าไปสู้ แต่สควอโล่มาขวางไว้และบอกว่าจะเป็นคนไปสู้เอง และบอกให้พวกสึนะพายูนิหนีไปสึนะและพวกจึงคิดว่าจะหนีไปซ่อนที่ไหน และแล้วฮารุก็บอกว่าให้ไปที่ร้านอาหาร เพราะฮารุรู้จักกับคนในร้าน ในขณะที่กำลังจะไปเสียงร้องของสควอโล่ก็ดังขึ้น พวกสึนะจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าสควอโล่บาดเจ็บสาหัส แขนขาดไปหนึ่งข้าง และฐานวองโกเล่ก็พังยับเยินด้วยฝีมือของ ซาคุโร่ สควอโล่บอกให้พวกสึนะไปโดยเร็วที่สุด พวกสึนะจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึงกลับพบว่าร้านปิด จึงตะโกนเรียกทันใดนั้นก็มีชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อคาวาฮิระ ออกมาบอกว่าเจ้าของร้านเสียไปแล้ว และ ก็บอกกับพวกสึนะว่าให้เข้ามาหลบก่อน คาวาฮิระช่วยไล่ซาคุโร่ไปยังภูเขาไฟฟูจิ และหลังจากนั้นคาวาฮิระก็ได้ให้พวกสึนะฝากร้านไว้ แต่กลับโดนโทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่แกมม่ามาช่วยทัน โทริคาบุโตะแปลงเป็น ไนท์เบน ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก สึนะกำลังลำบาก โคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอาเลนส์ปีศาจ ดี.สเปเด้มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X-Burner ของสึนะและถอยทัพไป ทางด้านเบียกคุรันที่นอนซมไข้เพราะใช้วิชามองอนาคตตามหายูนิก็กำลังให้ ไอริสจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่งชื่อ โกสต์ ที่คุกวินดิเช่ ฟรานได้ปลอมตัวเป็นไอริสแล้วแล้วขออนุญาต โรคุโด มุคุโร่ และได้เจอกับเคน จิคุสะและ M.M พวกสึนะได้เดินทางกลับไปที่ป่าที่มีโลงศพของสึนะ และได้พักแรมที่นั่น แกมม่า โนซารุและทาซารุได้มีปากเสียงกับโกคุเดระและอิริเอะ โชอิจิ แต่ยูนิมาห้ามไว้แล้วเล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจากลูเช่ หรือคุณยายของยูนิ รัล มิลจิ ได้บอกความจริงว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (เป็นสาเหตให้ลูเช่ อาเรีย ได้ป่วยและเสียชีวิต) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถพิเศษจะยิ่งเสื่อมไป แต่ยูนิได้บอกกับทุกคนว่าเธอรู้มานานแล้วว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเบียคุ รันในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้นวองโกเลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม ที่ 1 ดักอยู่ริมทะเลสาบ กลุ่มที่ 2 ดักอยู่ที่ป่า และกลุ่มที่3 เป็นกองกำลังปกป้องยูนิ กลุ่มแรกเรียวเฮ แรมโบ้ได้เจอกับคิเคียว (เมฆา) และคิเคียวก็ได้ใช้กล่องแร็พเตอร์ลงมือทำร้ายกลุ่มหนึ่งก่อน พอเห็นแรมโบ้ดูเหมือนจุดอ่อนจึงให้ฝูงแรพเตอร์เล็งไปที่แรมโบ้ เรียวเฮจึงงัดทีเด็ดโดยพูดให้แรมโบ้คิดถึงแม่ของสึนะ ด้วยความคิดถึงแม่ของสึนะแรมโบ้ร่างเด็กได้จุดไฟอัสนีที่แหวนขึ้นโดยไม่รู้ ตัวและเปิดกล่อง BOX Vongola ได้มีกระทิงอัสนีออกมาและคอมบิโอฟอมาร์เป็นเกราะอัศนี จัดการฝูงแรพเตอร์จนหมดแล้วต่อมาพวกวาเรียและพวกของโรคุโด มุคุโร่ได้เดินทางมาที่นามิโมริซันซัสได้จัดการคิเคียว (ไม่ตาย) จากนั้นโกส (ธาตุ อัสนีของมิลฟีโอเล่) ก็ ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนและได้ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของกลุ่ม1และ2ไปจนหมดรวม ทั้นซันซัสด้วย จากนั้นรีบอร์นบอกสึนะให้ไปช่วย (ที่จริงโกสเป็นแค่กลุ่มก้อนไฟเท่านั้น) สึนะจนใช้วิชา เดือดทะลุจุดศูนย์ดัดแปลง ศึกครั้งนี้เป็นศึกดูดพลัง และแล้วโกสก็สลายไป จากนั้นก็มาถึงจุดวิกฤตสุดๆ คือ เบียคุรันปรากฏตัวสึนะได้สู้กับเบียคุรันแต่สู้ไม่ได้ รุ่นที่1 จึงปลดปล่อยพลังของสึนะๆจึงมีพลังของแหวนให้ และยูนิกับแกมม่าจะยอมสละชีพเพื่อคืนชีพให้กับอัลโกบาเลโน่ทั้งหมด สึนะจึงใช้ x-burner สังหารเบียคุรัน ศึกครั้งนี้เบียคุรันตาย ยูนิและแกมม่าได้สละชีวิตเป็นที่เสียใจของทุกคน แล้วทุกคนก็ได้กลับอดีต

ภาค Choice


หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาที่ครอบครองแหวนมาเล่และแหวนมาเล่ทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น โชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกันจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะคือมอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่อง ชน เพื่อใช้ในการแข่งChioce Warกับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะเละสปาน่า ทางฝ่าย 6 บุปผาอาลัยได้ส่งตัวแทนคือ เดซี่ (อรุณ) คิเคียว (เมฆา) โทริคาบูโตะ (สายหมอก) และอัศวินมายา ในระหว่างการต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิเคียว (ตาย) ฝ่ายวองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียกคุรัน ทันใดนั้น ยูนิก็เดินมาขอให้เบียกคุรันถือผลการแข่งขันว่าเป็นโมฆะและจะลาออกจากมิลฟี โอเล่ แต่เบียคุรันไม่ยอม ขู่จะทำร้ายยูนิ แต่ว่ามุคุโร่ก็มาปกป้องยูนิและบอกว่าตัวเองนั้นยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ และรีบบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริ เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้ตามมาที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ ดีโน่ในอนาคต โรมาริโอ และคุซาคาเบะได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และเดซี่แปลงเป็นจิ้งจกอรุณ งอกแขนขาได้ ดีโน่แพ้ แต่ถูกจัดการโดยฮิบาริโดยอาวุธกล่อง วองโกเล่ กุญแจมืออารันดันดี คนอื่นรออยู่ที่ฐานทัพลับ ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมกับการปรากฏตัวของซาคุโร่วายุ

ภาคพิเศษ อัลโกบาเลโน่



 หลังจากจบศึกที่ฐานทัพเมโลเน่ สึนะได้รับกล่อง Vongola มาแต่ไม่สามารถใช้มันได้ อิริเอะ โชอิจิบอกกับเขาว่า การที่จะเปิดกล่องได้ จำเป็นจะต้องกลับไปยังอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เพื่อรับการทดสอบจากอัลโกบาเรโน่ทั้ง 7 โดยการกลับไปของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนั้น ในโลกในอดีต พวกเขาหายไปเพียงแค่สามวันเท่านั้น และอิริเอะก็ได้บอกให้พวกเขาสร้างเรื่องว่า ไปปิคนิคกันแล้วหลงทาง เมื่อทุกคนกลับไปอดีต ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น รีบอร์นได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆของอัลโกบาเรโน่แต่ละคนให้พวกสึนะฟัง อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดประกอบด้วย
  1. โคโรเนโร่ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุพิรุณ อดีตหัวหน้าหน่วยคอมมุสบินของอิตาลี มีอาวุธคือปืนไรเฟิล
  2. สกัล (หรือสคัล) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุเมฆา สตั๊นท์แมนผู้ได้รับฉายาว่า สกัลอมตะ สกัลผู้กลับมาจากนรก
  3. เวลเด้ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอัสนี นักวิทยาศาตร์อัจฉริยะ ผู้สร้างกล่อง (ร่วมกับ เคนิตฮ์ และ อิโนเซนตี้) ในอีกสิบปี
  4. ไวเปอร์ (มาม่อน) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุสายหมอก เป็นอัลโกบาเลโน่ที่เห็นแก่เงินที่สุด เพศหญิงแต่มักโดนเข้าใจผิดว่าเป็นเพศชาย สามารถสร้างภาพมายาให้กลายเป็นจริง และทำให้สิ่งที่มีจริงกลายเป็นภาพมายาได้ เป็นผู้พิทักษ์สายหมอกของกลุ่มลอบสังหารวาเรียด้วย(ภาคอนาคตได้ตายไปฟรานจึง มาแทน)
  5. ฟง ผู้ครอบครองจุกนมธาตุวายุ นักสู้อัจฉริยะอันดับหนึ่งของการแข่งขันกังฟูทัวร์นาเม้นท์ของจีน หน้าตาและทรงผมเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ แต่มีเปียยาวด้านหลัง เป็นอาจารย์ของอี้ผิง
  6. รีบอร์น ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอรุณ เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดในหมู่มาเฟียและเป็นครูสอนพิเศษของสึนะและม้าพยศดีโน่ด้วย
  7. อาเรีย (แม่ของยูนิ) (มาแทนลูเช่ที่เสียชีวิตเพราะคำสาปของอัลโกบาเลโน่เฉพาะธาตุนภาเท่านั้น) (ลูเช่เป็นยายของยูนิ) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุนภา เป็นหัวหน้าของอัลโกบาเลโน่ แม่ของรองหัวหน้ามิลฟีโอเล่แฟมิลี่ ยูนิ ในภาคพิเศษอัลโกบาเลโน่จะเป็นอาเรียซะส่วนใหญ่ จะมีพูดถึงลูเช่ช่วงย้อนความก่อนเป็นอัลโกบาเลโน่
การทดสอบครั้งแรก : การทดสอบของโคโรเนโร่ ฝึกทดสอบด้านกำลังรบ โดยจะต้องหยิบเข็มกลัดที่มีเลข 01จากผ้าโพกหัวของโคโรเนโร่ให้ได้
การทดสอบครั้งที่สอง : การทดสอบของสกัล ทดสอบในด้านสเน่ห์ จะต้องพยายามหยุดการต่อสู้กันระหว่างโรคุโด มุคุโร่ กับ ฮิบาริ เคียวยะให้ได้
การทดสอบครั้งที่สาม: การทดสอบของมาม่อน (ไวเปอร์) ฝึกเกี่ยวกับ ความสามารถในการดัดแปลงและด้านปัญญา โดยจะให้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในนามิโมริเมื่อเจอคำตอบจะต้องทำภารกิจที่ มาม่อนบอก ซึ่งภารกิจคือ เอาตัวรอดจากมาม่อนโดยใช้อาวุธกล่องทั้ง 3
การทดสอบครั้งที่สี่ : การทดสอบของฟง ทดสอบด้านความเป็นผู้นำ โดยจะต้องไล่จับฟงในโรงเรียนภายในเวลา30นาทีให้ได้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด3คน ได้แก่ ซาวาดะ สึนะโยชิ,แรมโบ้,มิอุระ ฮารุและอี้ผิงที่ปรากฏตัวภายหลังได้เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกๆของการทดสอบ เหล่าทุกคนได้พยายามไล่จับฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับจับตัวฟงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งหมดจะใช้อาวุธไล่โจมตีฟงเพื่อให้ฟงต้องหยุดก็ตาม จนผู้ทดสอบทั้งหมดเริ่มท้อกับการทดสอบ สึนะจึงปลอบใจ และเพิ่มกำลังใจผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ และเริ่มใช้กลยุทธ์ แต่กลยุทธ์นี้กลับพลาดเพราะฮิบาริดันมาเจอเข้า ด้วยความกลัวสึนะก็เลยจับตัวฟงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จับตัวฟงจนได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า "ลมหน่ะยิ่งตามยิ่งหนี"
การทดสอบครั้งที่ห้า : การทดสอบของอาเรีย ทดสอบด้านความอดทนในการยอมรับความเห็นผู้อื่น โดยสึนะจะต้องคอยทำตามคำขอร้องของอาเรียไปเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเป็นอัลโกบาเรโน่หรือเปล่า
การทดสอบครั้งที่หก : การทดสอบของรีบอร์น ทดสอบด้านความสามัคคีของบอส โดยจะต้องต่อสู้กับรีบอร์นแบบ7ต่อ1 (ผู้พิทักษ์ทั้ง6และหัวหน้า VS รีบอร์น) โดยที่สี่คน (โกคุเดระ ฮายาโตะ,ยามาโมโตะ ทาเคชิ,โคลม โดคุโร่,และซาซางะวะ เรียวเฮ) ล้วนแต่ใจอ่อนต่อรีบอร์น จึงไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นเท่าไรนักมีเพียง ฮิบาริ เคียวยะ ที่สนุกกับการต่อสู้นี้ และในขณะที่รีบอร์นจริงจังกับการต่อสู้มาก จนทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งห้าหมดสติลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรมโบ้ ก็ได้แต่นอนอย่างไม่รู้เรื่องอะไรลย จนทำให้เหลือสึนะเพียงคนเดียว จึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสึนะกับรีบอร์น ในช่วงท้ายๆของการทดสอบ รีบอร์นออมมือให้สึนะเล็กน้อย จนสึนะได้โอกาสยิงX-Burner Air แต่ว่า เพราะสึนะไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นมากไปกว่านี้ สึนะจึงหยุดยิงX-Burner Airจนทำให้สูญเสียโอกาสสุดท้ายไป และถูกรีบอร์นโจมตีด้วยกระสุนดับเครื่องชนจนไม่ผ่านการทดสอบในที่สุด
การทดสอบครั้งที่เจ็ด : การทดสอบของเวลเด้ ทดสอบด้านสัญชาตญาณ โดยเวลเด้ได้หลอกให้สู้กับหุ่นยนต์ที่ก๊อปปี้ตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกพวกอัลโกบาเลโน่ ทั้งหมดได้โดนจับ(รวมทั้งรันมิจิด้วย) (ยกเว้นอาเรีย เพราะเธอไม่ใช่อัลโกบาเลโน่) โดยหลังจากที่สึนะช่วยพวกนั้นมาได้ก็ได้ช่วยกันกำจัดเวลเด้แต่ตัวแรกเป็น หุ่นยนต์จึงเสียแรงฟรีเปล่าๆ แต่สึนะได้รู้สึกว่ามีฐานทับลับของเวลเด้อยู่ใกล้ๆ พวกสึนะจึงผ่านการทดสอบ
การทดสอบรอบแปด : การทดสอบของรีบอร์น (รอบสอง) ทดสอบด้ายความเชื่อใจและความพยายาม โดยตอนที่พวกสึนะฝึกกับเวลเด้ผ่านและได้พลังอัศนีของเวลเด้มา รีบอร์นก็ให้ผ่านการทดสอบ เพราะสึนะต้องการทดสอบกับรีบอร์นอีกรอบรีบอร์นเห็นว่ามีความพยายามจึงให้ ผ่านไปเลย -->

The Future ภาคท้าย x-burn





หลังจากเตรียมความพร้อมในการรบกับมิฟิโอเล่แล้ว สึนะได้รับแผนการในการบุกจากสปาน่า ที่รับคำสั่งจาก อิริเอะให้หักหลัง มิฟิโอเร่ โดยมอบทั้งแผนที่และยุทธการและการรบทั้งหมดให้กับสปาน่า แต่ตนเองทำเป็นคุมสถานการณ์ได้ โดยเมื่อเข้ามาในฐานทัพได้แล้วกลับกลายเป็นอาวุธกล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่า บล็อกฐานทัพ โดยมีผู้ใช้งานคือ อิริเอะ ไอริสและ Ginger Bread บุกเข้าไปในห้องทำงานและแล็บต่างๆของสปาน่าเพื่อตามหาสึนะและสปาน่า สุดท้ายก็หาจนพบและได้ต่อสู้กับสึนะ โดยครั้งนี้สึนะได้ใช้ Contacts ซึ่งสปาน่าเป็นผู้สร้างให้ เพื่อพัฒนา X-Burner ให้ถึงขีดสุด Contactsทำหน้าที่ควบคุมเปลวไฟสองข้างให้เท่ากัน สึนะได้ใช้ X-Burner อย่างสมบูรณ์แบบ และซึนะก็ชนะ หลังจากนั้นอัศวินมายาก็ปรากฏตัว ซึ่งสึนะได้ใช้ X-Burner ใส่แต่ไม่เป็นอะไร และเมื่อต่อสู้กันได้ไม่นานอัศวินมายากันได้แปลงร่างออกมา แต่ก็พ่ายแพ้ให้X-Burnerของสึนะอยู่ดี เมื่อสึนะบุกถึงระบบกลางได้แล้ว อิริเอะได้บอกความจริงที่ว่า ตนเองเป็นฝ่าย วองโกเล่ แล้วพวกสึนะก็ได้รู้ความจริงว่า คนที่ส่งพวกเขาทุกคนมายังยุคนี้คือตัวของสึนะในยุคนี้นั่นเอง ซึ่งแผนการนี้เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะอิริเอะ โชอิจิ สึนะ และฮิบาริในยุคนี้เท่านั้น

The Future ภาคกลาง x-burn


หลังจากได้รับสารลับให้รวบรวม บรรดาผู้พิทักษ์ทั้ง 6 กลับมาได้แล้วนั้นต้องสุ้กับบรรดานักรบบุปผาอาลัย ตัวปลอมทั้ง 6 คนโดยเป้าหมายนั้นคือ ทำการสอบสวนโชอิจิผู้พัฒนาระบบการเคลื่อนย้ายผ่านบาซูก้าทศวรรษ โดยสึนะและบรรดาผู้พิทักษ์ฝึกใช้กล่องเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่อง แคล่วจำเป็นต้องควบคุมความสามารถและการใช้งานให้ได้ก่อนโดย ในการฝึกแรกสึนะ บอสวองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้รับการพัฒนาฝีมือและความสามารถด้วยการรับสัญลักษณ์แห่งวองโกเล่ โดยสามารถพัฒนา X Glove ให้กลายเป็น V.vongola ring หลังจากฝึกเสร็จพวกสึนะได้รับคำสั่งให้บุกฐานทัพเมโลเน่ที่ญี่ปุ่นสึนะได้ รับ MicroVR และ MRcontacs เลนส์ ที่พัฒนาให้สามารถเชื่อมความสามารถระหว่าง X Burner V.vongola ring และ Headphone จาก สปาน่าให้ใช้งานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็น

ปฐมบท The Future



รีบอร์นถูกนำตัวสู่อนาคตด้วยบาซูก้าทศวรรษ และยังไม่กลับสู่สภาพเดิม สึนะจึงให้แรมโบ้ยิงบาซูก้าใส่ตัวเองเพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อสอบถาม แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน สึนะโดนบาซูก้าและถูกส่งไปในอีก 10 ข้างหน้าได้ทราบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่ง เพราะตนเองถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้วพร้อมทั้งยังทำลายแหวนวองโกเล่ จากปากของ รัล มิลจิ หนึ่งใน อัลบาโกโล่แน่ เด็กต้องสาป โดยฐานทัพของวองโกแรลนั้นถูกย้ายศูนย์บัญชาการลงใต้ดินหลังจาก มิลฟีโอเล่แฟมิลี่ถล่ม โดยผู้บรรชาการคือเบียกคุรัน วองโกเล่รุ่นที่9 หายสาบสูญโดยมีคำสั่งสุดท้ายให้ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน กระจัดกระจายมารวมตัวกันเพื่อหยุดแผนการสร้างโลกใหม่ด้วยการนำแหวนวองโกเลใน อดีตและนำอัลบาโกโล่เน่กลับมาด้วย เพื่อรวมกับแหวนทั้งหมดของมิลฟิโอเร่ เป็น ทูรินิเซนต์ 7³

ภาคปะทะวาเรีย


หลังจากศึกมุคุโร่ พวกสึนะก็ต้องเผชิญกับกลุ่มวาเรีย (Varia) โดยที่สควอโล่นั้นไล่กวดบาจิลตลอดทางในญี่ปุ่น เพื่อชิงแหวนอีกครึ่งหนึ่งของวองโกเล่ และเจอกับพวกสึนะเข้า สควอโล่นั้นต้องการแหวนผู้พิทักษ์วอลโกเล่ เป็นครึ่งหนึ่งของแหวนแต่ละอัน ซึ่งสควอโล่นั้นได้แหวนของปลอมไป ส่วนของจริงนั้นอยู่กับดีโน่ พ่อของสึนะได้กระจายแหวนไปให้ทั้ง 7 คน โดยมอบแหวนแต่ละวงไปอยู่กับ
  • แหวนแห่งนภา - ซาวาดะ สึนะโยชิ
  • แหวนแห่งเมฆา - ฮิบาริ เคียวยะ
  • แหวนแห่งอัสนี- แรมโบ้
  • แหวนแห่งวายุ - โกคุเดระ ฮายาโตะ
  • แหวนแห่งพิรุณ - ยามาโมโตะ ทาเคชิ
  • แหวนแห่งอรุณ - ซาซางาวะ เรียวเฮ
  • แหวนแห่งสายหมอก - โครม โดคุโร่ เป็นตัวแทนของ โรคุโด มุคุโร่
ทุกคนนั้นต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะต่อกรกับกลุ่มวาเรียที่กำลังจะรู้ ความจริงเรื่องแหวน และจะมาญี่ปุ่นในไม่ช้า รีบอร์นได้จัดครูฝึกของทุกคนไว้ ยกเว้นโครมและแรมโบ้ที่เพิ่งพบว่ามีแหวนอยู่ภายหลัง โดยที่รีบอร์นจัดครูสอนพิเศษไว้ ดังนี้
  • ซาวาดะ สึนะโยชิ - รีบอร์น
  • ฮิบาริ เคียวยะ - ดีโน่
  • โกคุเดระ ฮายาโตะ - ดร. ชามาล
  • ยามาโมโตะ ทาเคชิ - พ่อของยามาโมโตะ
  • ซาซางาวะ เรียวเฮ - โคโรเนโร่
สึนะนั้นเพิ่งรู้ว่าแหวนแห่งอัสนีนั้นอยู่กับแรมโบ้ ระหว่างที่แรมโบ้นั้นถูกหมายหัวโดยเลวี่หนึ่งในวาเรีย พวกวาเรียนั้นมาถึงญี่ปุ่นก่อนกำหนด และทุกคนนั้นถูกจัดการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างผู้พิทักษ์ที่มีแหวนเหมือนกัน โดยแต่ละคืนนั้นจะมีหนึ่งศึก โดยมีลำดับดังนี้
  • ศึกแห่งอรุณ ระหว่าง ซาซางาวะ เรียวเฮ ปะทะ ลุซซูเรีย (ชนะ)
เวทีนั้นคือสนามประตูโรงเรียนที่ถูกจัดเป็นเวทีมวย ลุซซูเรียชอบใจเรียวเฮ แต่เขาต้องการที่จะให้สิ่งที่ชอบเป็นศพแล้วเก็บเอาไว้ในคอลเล็คชั่นส่วนตัว ของเขา[เอาไปสตัฟ!!!]
  • ศึกแห่งอัสนี แรมโบ้ ปะทะ เลวี่ อาแทน (แพ้)
เวทีนั้นอยู่บนดาดฟ้าโรงเรียน โดยที่มีพายุฟ้าผ่า แถมสายล่อฟ้าตั้งสูง แรมโบ้นั้นได้เรียกตัวเองจาก 20 ปีข้างหน้ามาสู้ แต่หมดเวลาของกระสุน บาซูก้าทศวรรษเสียก่อน จึงทำให้เลวี่ได้โอกาสโจมตีแรมโบ้อย่างรุนแรง แต่สึนะมาช่วยไว้ ทว่า ต้องถูกปรับแพ้เพราะสึนะเข้ามาช่วย
  • ศึกแห่งวายุ โกคุเดระ ฮายาโตะ ปะทะ เบลเฟกอล (แพ้)
เวทีอยู่ในอาคารโรงเรียนตึก A ที่มีลมพายุที่เกิดจากเครื่อง พร้อมระเบิดเวลา ระหว่างที่สู้เบลเฟกอลได้เห็นเลือดตัวเองจึงฟิวส์ขาดและต่อสู้ได้เก่งขึ้น ด้วย โกคุเดระจึงได้ละทิ้งแหวน เพื่อหนีเอาชีวิตรอดหลังจากที่ระเบิดเวลาใกล้มาถึงตัวของเขาแล้ว
  • ศึกแห่งพิรุณ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ปะทะ สเปลบี สควอโล่ (ชนะ)
ภายในอาคาร ตึก B โดยที่ตึกโดนทุบจนแหลก แล้วมีน้ำไหลลงมาจากแท้งค์น้ำที่อยู่ข้างบนมันจะไหลอย่างไม่หยุดจนเกิดนำ ท่วมและปล่อยสัตว์นำดุร้ายมาโดยที่ระหว่างที่สู้ยามาโมโตะได้รู้ว่าสควอโล่ เคยถล่มสำนักชิงุเระโซเอนมาแล้ว แต่สควอโล่นั้นไม่สามารถมองเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 8 (พิรุณกระหน่ำแทง) โดยคิดว่าเป็น ฝนใบไม้ร่วง และก็ถูกปราบด้วยเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 9 (ฝนสะท้อนเงา) ซึ่งเป็นท่าที่คิดค้นด้วยตัวเอง และโดนฉลามกิน (แต่ยังไม่ตาย)
  • ศึกแห่งสายหมอก โครม โรคุโด ปะทะ มามะ [ไวเปอร์] (ชนะ)
ภายในโรงยิม ที่ไม่มีอะไรพิเศษ มามอนได้ใช้พลังปลดผนึกจุกนมขึ้นมากลายเป็น อัลโกบาเลโน่ ไวเปอร์ แล้วใช้พลังของตนเองโจมตีโครม จนหอกสามง่ามของโครมหัก จนโครมสลบไป และท้องก็ยุบลงไปเรื่อยๆ ขณะที่โครมกำลังแย่ มุคุโร่นั้นจึงมาสลับเปลี่ยนกับโครม แล้วใช้พลังของตนเองที่ได้มาจากในนรกจัดการกับไวเปอร์
  • ศึกแห่งเมฆา ฮิบาริ เคียวยะ ปะทะ โกล่า มอสก้า (ชนะ)
สนามโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกับระเบิด และถูกยิงโดยปืนกลจากด้านนอก ฮิบาริชนะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แล้วจึงท้าสู้กับ XANXUS ในระหว่างที่สู้กับ XANXUS มอสก้าก็เกิดบ้าคลั่ง สึนะต้องหยุดมัน แต่ว่ารุ่นที่ 9 ตัวจริงนั้นถูกจับไว้อยู่ข้างใน ในสภาพที่เกือบตาย
  • ศึกแห่งนภา ซาวาดะ สึนะโยชิ ปะทะ Xanxus (ชนะ)
ทั่วโรงเรียน โดยต้องช่วยผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งหมดก่อนครึ่งชั่วโมง โดย Xanxus ใช้ความสามารถของรุ่นที่ 2 และอาวุธของรุ่นที่ 7 ส่วนสึนะได้สำเร็จท่าใหม่ เดือดทะลุจุดศูนย์ ของรุ่นที่ 1 และได้คิดค้น เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง ที่ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของคู่ต่อสู้ได้ หลังจากนั้นสึนะก็สามารถใช้ เดือดทะลุจุดศูนย์แบบต้นตำรับ ที่ทำให้แช่แข็งศัตรูได้
หลังจากที่สึนะชนะ Xanxus แล้วก็ได้รู้ว่าแผลของ Xanxus เกิดจากที่วองโกเล่รุ่นที่ 9 ใช้เดือดทะลุจุดศูนย์ แช่แข็ง และได้รู้อีกว่า Xanxus ไม่ใช่ลูกแท้ๆของรุ่นที่ 9 แค่เป็นเด็กฝากมาเลี้ยงเท่านั้น จริงๆแล้ว Xanxus ได้แหวนไปแล้วแต่แหวนกลับปฏิเสธ Xanxus จากนั้นเบลเฟกอลและมาม่อนได้เรียกกลุ่มวาเรียที่เหลือมาช่วย แต่ว่าถูกลันเซียกำจัดหมด และผู้พิทักษ์ของสึนะทุกคนก็ได้แหวนไป

ตัวละคร วาเรีย

 
  • ซันซัส ( Xanxus ) : Wrath - ความโกรธ ซันซัส หัวหน้าของเหล่าวาเรีย เป็นคนที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก มีพลังไฟดับเครื่องชนแบบบอลแสงที่รุนแรงเหมือนวองโกเล่ รุ่นที่ 2 และมีอาวุธปืนเหมือนวองโกเล่ รุ่นที่ 7 ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่7 โดยแข่งกับซาวาดะ สึนะโยชิ(แพ้) ในภาคอนาคต ได้ต่อสู้กับ จิล และ ออลเกลท์ และสามารถชนะได้ อาวุธกล่อง เลโอเน เทมเพสต้า ดิ เชลี ( ไลเกอร์วายุ ) ซึ่งเขาตั้งชื่อให้ว่า เบสเตอร์(สุดยอดที่สุด) เป็นกล่องซุปเปอร์โคตรหายากของวงการมาเฟีย อีกทั้งไม่สามารถก๊อปปี้ได้ เพราะเป็นซีรีส์ราชสีห์นภาที่เลียนแบบไม่ได้ และในอีกกรณีหนึ่งคือ คนที่มีพลังไฟอย่างซันซัส คงหาไม่ได้อีกแล้วเก่งมากถ้าเทียบกับสึนะแล้ว เมื่อ ซันซัส โกรธจะมีรอยแผลจากการต่อสู้กับ วองโกเล่ รุ่นที่ 9 ออกมา
สเปลบี สควอโล่ (Superbia Squalo) เคยต่อสู้กับ 'ทูล'เทพกระบี่และหัวหน้ากลุ่มวาเรียรุ่นแรก ทำให้เสียมือซ้ายไป เคยเป็นว่าที่หัวหน้าวาเรีย ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่ 4 โดยแข่งกับ ยามาโมโตะ ทาเคชิ(แพ้) ในภาคอนาคต ได้สู้กับทหารของมิลมิลฟีโอเล่ อาวุธกล่อง คือ ฉลามพิรุณ Squalo ในภาษาอิตาลี่ แปลว่า ฉลาม (สัตว์อาวุธกล่องของสควอโล่คือฉลามชื่ออาโร)
 
 
 
เบลเฟกอล (Belphegor) ในภาคอนาคต ได้สู้กับ จิลพี่ชายของเบลที่ถูกเบลฆ่าตอนเด็กๆ และแพ้ให้กับจิล(แต่เป็นแผนของฟรานที่ใช้ภาพมายาทำให้ดูเหมือนเบลกับตัวเอง ตายเพื่อให้จิลไปเผชิญหน้าสู้กับซันซัส) อาวุธกล่อง มิ้งค์วายุ
 
 
 
มาม่อน (Mammon) หรือไวเปอร์(อัลโกบาเลโน่จุกนมสีคราม) ผู้พิทักษ์แห่งหมอก มีความสามารถในการใช้ภาพลวงตา และภาพน้ำมูก(สั่งน้ำมูกใส่กระดาษชำระทำให้ปรากฏที่อยู่ของสิ่งที่ต้องการ ค้นหาได้) พยายามหาทางแก้ไขคำสาปของอัลโกบาเลโน่ 'มามอนเชน'ที่ใช้ผนึกพลังของแหวนในอนาคตก็เป็นผลงานของมาม่อน ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่ 5 โดยแข่งกับ โคลม โดคุโร(โรคุโด มุคุโร่ ในภายหลัง)(แพ้)
Mammon ในภาษาอิตาลี่ คือทรัพย์สมบัติ จึงไม่น่าแปลกใจที่มาม่อนชอบเงินตรา และเป็นบาปประจำความโลภ



เลวี่ อาแทน (Levi A Than) ผู้พิทักษ์แห่งอัสนี มีอาวุธคือ 'พาราโบล่า'หรือร่มสายฟ้า8คัน ที่จะสามารถทำให้ฟ้าผ่าได้เหมือนสายล่อฟ้า เป็นคนทะเยอทะยานมาก ทำทุกทางให้ได้รับคำชมจากบอส ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่ 2 โดยแข่งกับ แรมโบ้(ชนะ เพราะสึนะเข้ามาขัดขวางทำให้แรมโบ้ถูกปรับแพ้)
ในภาคอนาคต ได้สู้กับทหารของมิลมิลฟีโอเล่ อาวุธกล่อง ปลากระเบนอัสนี



ลูซซูเรีย (Lussuria) ผู้พิทักษ์แห่งอรุณ เป็นตุ๊ด เรียกได้ว่าเป็นแม่ของวาเรีย ใช้วิชามวยเช่นเดียวกับเรียวเฮ (ตามที่รีบอร์นบอก ผู้พิทักษ์อรุณของวองโกเล่ล้วนมีหมัดที่แข็งแกร่ง) ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่ 1 โดยแข่งกับซาซางาวะ เรียวเฮ(แพ้)
ในภาคอนาคต ได้เปิดกล่องช่วยรักษาพวกวาเรีย อาวุธกล่อง นกยูงอรุณชื่อว่า คู Lussuria ในภาษาอิตาลี่ แปลว่า หื่นกาม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ลุสซูเรียจะมีบาปประจำตัวคือ กาม



โกร่า มอสก้า (Gora Moska) ผู้พิทักษ์เมฆา เป็นหุ่นยนต์รูปร่างคน ในอนาคตถูกพัฒนาโดย 'สปาน่า' ของ 'มิลฟีโอเล่ แฟมิลี่' ทำให้มีความแข็งแกร่งขึ้นมาก ใช้ชื่อว่า สทูราโอ มอสก้า และ คิงมอสก้า ในศึกชิงแหวนแข่งเป็นคู่ที่ 6 โดยแข่งกับ ฮิบาริ เคียวยะ(แพ้)
 
 
 
ฟราน (Fran) ในภาคโลกอนาคต เป็นผู้พิทักษ์แห่งหมอกแทนมาม่อน(ไวเปอร์)ที่ได้ตายไป ใช้วิชาภาพลวงตา ใส่หมวกทรงหัวกบขนาดใหญ่ มีเฮลริงไว้ในครอบครอง แต่ไม่สามารถเปิดอาวุธกล่องได้ จับคู่:กับเบลเฟกอลเวลาทำภารกิจ ความสามารถยังไม่เปิดเผย เป็นลูกศิษย์ของมุคุโร่ และอาวุธกล่องอย่างหนึ่งคือ กล่องวาเรียสั่งทำพิเศษเฉพาะฟราน เพราะอาวุธข้างในคือ ตุ๊กตาเบลเฟกอลติดสปริง ใช้เสียงโหวกเหวกโวยวาย(อ๊ากกกกกกกกกกก)เป็นการป้องกัน

การท้าทายจากมุคุโร่



หลังจากที่เริ่มการฝึกไปได้ไม่นาน "มุคุโร่" ได้นำนักฆ่าหลายคนเข้าทำร้ายเด็กนามิโมริ 1ในนั้นคือ ซาซางาวะ เรียวเฮ สึนะจึงเข้าไปหา หลังจากที่กำลังออกจากห้องของเรียวเฮ ก็ได้พบกับคุวาซาเบะที่นอนซมอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน หางของเลอ้อนก็หลุดออก และเนื่องจากการที่มุคุโร่ส่งนักฆ่าหลายคนมาทำร้ายเด็กโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริจึงไปจัดการกับมุคุโร่เพราะความโกรธ แต่กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค"ซากุระโซซัดโซเซ"ที่เมื่ออยู่มองดอกซากุระ แล้ว จะยืนไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโต้"ของ ดร. ชามาล ในขณะเดียวกัน ขณะที่โกคุเทระกำลังเที่ยวอยู่ก็มาเจอ1ในนักฆ่าของมุคุโร่"จิคุสะ"โดย บังเอิญ ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันก็โดนพิษจากอาวุธของเขา"โยโย่"เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนามิโมริ หลังจากที่สึนะออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว สึนะก็ได้พบว่าเลอ้อนกลายเป็นดักแด้ไปแล้ว จากนั้นรีบอร์นก็บอกให้ไปถล่มพวกมุคุโร่ และบอกว่ากระสุนดับเครื่องชนเหลืออยู่แค่นัดเดียวโดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเดระ และเบียงกี้ไปด้วย แต่ถึงอย่างไร พวกสึนะก็ไปที่โกคุโยแลนด์ เพื่อปะทะกับมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักฆ่าทั้งหมด โดยยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M จนได้พบกับมุคุโร่ ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็ก จนสลบไป โกคุเดระบาดเจ็บ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ชนะและ รู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ ก็โดนเข็มพิษจากจิคุสะลอบยิงใส่ จากนั้นมุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อว่า ลันเชีย เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีกระสุนดับเครื่องชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโกรธและบุกไปหามุคุโร่ในโกคุโยคอมเพล็กซ์
พวกสึนะได้พบกับจิคุสะแล้วโกคุเทระก็อาสาสู้ด้วยแต่แล้ว เคนก็มาช่วยจิคุสะ เมื่อโกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย ฮิบาริก็เข้าไปช่วยแล้วจึงไปช่วยสึนะ จึงรวมพลังกันเพื่อสู้กับมุคุโร่แต่ฮิบาริสลบไปก่อน ในระหว่างที่สู้กันอยู่ เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงยิงปืนฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเดระ รีบอร์นจึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า"กระสุนสิงสู่"ซึ่งเป็น กระสุนต้องห้าม (กระสุนพิเศษที่ทางวงการมาเฟียได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทว่า เลออนได้ฟักออกจากดักแด้ขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือX-GLOVE (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงบ่น จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วยX-GLOVEและกระสุนเสียงบ่นที่ทำให้เข้าสู่โหมด ใหม่"โหมดไฮเปอร์"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวินดีเช่ คือ กรรมการคุมกฏของมาเฟียที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ในวง การมาเฟียจับตัวกลับไปพร้อมกับพรรคพวก แต่ในตอนท้ายมุคุโร่ได้สิงร่างเด็กผู้ชายที่มีชื่อเล่นว่า"ม่าคุง"มุคุโร่ ..............

ภาคฝึกฝน



ซาวาดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กม.ต้นที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องทุกด้าน จนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมห่วย" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนพิเศษที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "รีบอร์น"มาจากอิตาลี สึนะไม่ยอมรับว่ารีบอร์นซึ่งดูเป็นทารกอยู่จะเป็นครูสอนพิเศษได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "กระสุนดับเครื่องชน" ที่กลางหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องตาย และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะอย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับรักของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับเครื่องชนก็ถูกจุดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ เสื้อผ้าของเขาขาดออก และเขาก็วิ่งไปสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะที่เดินอยู่กับรุ่นพี่โมจิดะ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพรักครั้งนี้คือเคียวโกะตกใจจนพูดไม่ออก เพราะวิ่งมาสารภาพรักโดยที่ไม่ใส่เสื้อผ้า จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับเครื่องชนของรีบอร์นมีพลังวิเศษ และรีบอร์นก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าของ "วองโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์มาเฟียขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในอิตาลี รีบอร์นบอกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่สิบต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งวองโกเล่ขึ้น และล้างมือมาอยู่ญี่ปุ่น หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในสภาพเปลือยเปล่า รุ่นพี่โมจิดะ ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองเคนโด้ด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้แต่ก็จะกลับไปสู้ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการกระชากผมของรุ่นพี่โมจิดะออก จากหัว (ป้ง แปลอีกอย่างได้ว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมุกของสึนะ และเดียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระ ทำระเบิดหล่น และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดทั้งหมดได้ทัน และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมยิ่งโดดเด่น เช่น การระเบิดสนามของโรงเรียน) ทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นพิษที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ความที่เบียงกี้ชอบรีบอร์นมากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก และดีโน่ หัวหน้าคาบัคโรเน่แฟมิลี่ เป็นศิษย์รุ่นพี่ของสึนะโดยเคยเป็นลูกศิษย์ของรีบอร์นมาก่อน จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างบางแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วยจนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก

เนื้อเรื่อง


ภาค 1 ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น นั้นกล่าวถึงเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าซาวาดะ สึนะโยชิผู้ซึ่งเป็นหลานของหลานของหลานของหลานของหลานของวองโกเล่รุ่นที่1 ผู้ที่เป็นคนก่อตั้งวองโกเล่แฟมมิลี่นี้ ขึ้นมา และเมื่อถึงวาระที่วองโกเล่คนปัจจุบันซึ่งก็คือวองโกเล่รุ่นที่9นั้นจะต้อง หาผู้สืบทอดตำแหน่งบอส จึงได้ค้นหาผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็นบอสของวองโกเล่ แต่เนื่องจากผู้ที่มีโอกาสเป็นหัวหน้าแก็งค์นั้นได้ตายไปหมดแล้ว รุ่นที่9จึงส่งตัวรีบอร์นซึ่งเป็นเด็กทารกอัลโกบาเล่โน่นักฆ่าที่ตนไว้ใจที่สุดให้มาฝึกฝนฝีมือและหาแฟมมิลี่ให้กับสึนะ โดยที่รีบอร์นนั้นจะยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะ โดยที่กระสุนดับเครื่องชนนั้นจะทำให้ผู้ที่ถูกยิงมีผลเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ในสภาพดับเครื่องชนโดยมีฤทธิ์นาน5นาที และมีข้อแม้ว่าถ้าผู้ที่โดนยิงด้วยกระสุนดับเครื่องชนนั้นไม่ได้เสียใจที่จะ ตาย กระสุนนั้นก็จะไม่ส่งผลที่ทำให้เกิดใหม่มาเป็นสภาพดับเครื่องชนและจะทำให้ ผู้ที่ถูกยิงนั้นตายไป ถึงแม้ว่าในตอนแรกนั้นสึนะจะไม่ชอบวิธีการฝึกของรีบอร์น แต่ว่ารีบอร์นก็ทำให้คนที่เคยได้ฉายาว่าเจ้าห่วยอย่างสึนะ มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมา แถมยังได้รู้จักกับซาซางาวะ เคียวโกะ ดาวโรงเรียนที่สึนะแอบชอบ จึงทำให้สึนะมองรีบอร์นใหม่ในอีกมุมนึงและยอมรับในตัวรีบอร์น ในตอนนี้แฟมมิลี่ของสึนะนั้นมีโกคุเทระ ฮายาโตะที่เป็นมือระเบิดมาจากอิตาลีและยามาโมโตะ ทาเคชิเจ้าของฉายาบ้าเบสบอลที่โกคุเทระตั้งให้ โกคุเทระนั้นเข้ามาเป็นแฟมมิลี่ของสึนะเพราะทราบซึ้งในบุญคุณของสึนะที่ช่วย ตนไว้ ส่วนยามาโมโตะนั้นที่เข้ามาเป็นแฟมมิลี่ของสึนะเพราะคิดว่าสึนะกับยามาโมโตะ เล่นเป็นมาเฟียกัน ส่วนวาที่แฟมมิลี่ของสึนะในตอนนี้ก็มีซาซางาวะ เรียวเฮพี่ชายสุดขั้วของเคียวโกะที่เป็นหัวหน้าชมรมมวยและต้องการให้สึนะ เข้าชมรมเพราะเห็นพลังของสึนะ(ในโหมดไฮเปอร์) และอีกคนคือฮิบาริ เคียวยะเป็นหัวหน้ากรรมการคุมกฎด้วยและเป็นหัวหน้าแก็งอันธพาลด้วย ฝีมือการต่อสู้นั้นเป็นอันดับหนึ่งในโรงเรียนนามิโมริ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใครและรักสันโดดจึงทำให้ยากต่อการทีจะทำให้ ฮิบาริมาเข้าแฟมมิลี่ ฮิบารินั้นเคยประมือกับพวกสึนะหนึ่งครั้ง และพวกสึนะทั้งสามคนก็แพ้ราบคาบ และรอดชีวิตมาได้เพราะรีบอร์นช่วยเอาไว้ และเพราะสาเหตุนี้นี่เองทำให้ฮิบาริชอบมาสังเกตการณ์กลุ่มสึนะบ่อยๆเพราะถูก ใจในฝีมือการต่อสู้ของรีบอร์น ตัวละครอื่นๆที่ปรากฏในภาคนี้ก็มีมิอุระ ฮารุซึ่งเป็นผู้หญิงที่ตอนแรกแอบชอบรีบอร์นแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจมาชอบสึนะ เพราะได้สึนะช่วยชีวิตไว้ตอนจะจมน้ำและได้สัญญากับสึนะไว้ว่าจะเป็นศรีภรรยา ที่ดีให้กับบ้านซาวาดะ นอกจากนั้นก็มีระเบิดมนุษย์อี้พิงซึ่งเป็นนักฆ่ามาจากจีนและตกหลุมรักฮิบาริ ตอนนี้ได้อาศัยอยู่ที่บ้านของสึนะด้วยเหตุผมที่ว่าอี้พิงจะขอฝึกฝนตนเองให้ เก่งขึ้น แล้วก็ยังมีแรมโบ้นักฆ่าที่ใส่ชุดลายวัวทั้งตัวจากโบวิโน่แฟมมิลี่ที่ตอนแรก หมายจะมาฆ่ารีบอร์นแต่ดันลืมภารกิจของตัวเองและตอนนี้ก็ได้อาศัยอยู่ที่บ้าน ของสึนะ โดยที่เวลาที่แรมโบ้เสียใจมากๆนั้นแรมโบ้นจะใช้บาซูก้าทศวรรตยิงใส่ตัวเอง เพื่อสับเปลี่ยนกับตัวเองในอีก10ปีข้างหน้าออกมา ซึ่งแรมโบ้ในอีกสิบปีข้างหน้านั้นหน้าตาเหมือนแฟนเก่าของเบี้ยงกี้ไม่มีผิด แมงป่องพิษเบี้ยงกี้นั้นเป็นคนรักของรีบอร์นที่มาจากอิตาลีเพื่อที่จะตามตัว รีบอร์นกลับไปทำงานด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นกับรีบอร์นเพื่อนช่วยสอนวิชาคหกรรมให้สึนะ ตามที่รีบอร์นขอ เบี้ยงกี้นั้นเป็นพี่สาวของโกคุเทระแต่ว่าเวลาที่โกคุเดระเห็นหน้าเบี้ยงกี้ นั้นจะมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ส่วนคนสุดท้ายนั้นคือแรงกิ้งฟูตะ เป็นนักจัดแรงกิ้งที่สามารถติดต่อกับดาวแรงกิ้งได้ ว่ากันว่าแรงกิ้งที่ฟูตะจัดนั้นถูกร้อยทั้งร้อยทำให้เป็นที่ต้องการตัวของ พวกมาเฟียที่ต้องการอำนาจ ด้วยการช่วยเหลือของสึนะทำให้ฟูตะย้ายมาอยู่กับสึนะเพื่อความปลอดภัยของตน เอง ส่วนแฟมมิลี่พันธมิตรที่ปรากฏออกมาในตอนนี้มีคาบัคโนเล่แฟมมิลี่ที่มีม้าพยศ ดีโน่อดีตลูกศิษฐ์ของรีบอร์นเป็นบอส^_^

ตัวละคร vongola



รีบอร์น  เจ้าของจุกนม สีเหลือง ทารกที่เป็นนักฆ่าแห่งวองโกเล่ แฟมิลี และเป็นนักฆ่าที่หัวหน้าวองโกเล่ แฟมิลีรุ่นที่ 9 ไว้ใจมากที่สุด ปรากฏตัวในฐานะครูสอนพิเศษของสึนะเพื่อฝึกฝนให้สึนะเป็นหัวหน้าวองโกเล่ แฟมิลีรุ่นที่ 10 เป็นคนที่ปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ทุกรูปแบบอยู่เสมอเวลาที่รีบอร์ นปรากฏตัวทุกครั้งจะต้องพูดคำว่า "ดีจ้า" เพื่อเป็นการทักทายเสมอ และทุกครั้งจะปรากฏตัวออกมาด้วยเสื้อผ้ารูปแบบต่างๆโดยที่คนอื่นไม่ได้ สังเกตยกเว้นสึนะคนเดียว รีบอร์นมักจะซ่อนตัวตามซอกตึกรอบๆเมืองเพื่อคอยดูสึนะ นอกจากนี้ยังสื่อสารกับแมลงที่คอยหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆให้ได้อีกด้วย ตั้งแต่ที่รีบอร์นเข้ามาเป็นนักฆ่าสังกัดวองโกเล่ แฟมิลี่เต็มตัวก็ได้รับภารกิจให้มาฝึกฝนสึนะโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยแม้แต่ ครั้งเดียว เว้นเสียแต่ว่าจะยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่สึนะให้แก้ไขสถานการณ์ต่างๆด้วย ตัวเอง ในภาคอนาคต รีบอร์นได้ถูกกล่าวว่าได้ตายไปแล้ว โดยรีบอร์นในอดีตที่ถูกบาซูก้าทศวรรษยิงเข้ามาต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสง ทรูรินิเซนต์ โดยตรงและอาศัยอยู่ในฐานทัพใต้ดินของวองโกเล่กับยามาโมโตะ และสวมใส่ชุดพิเศษ ถึงแม้ว่าเงาของรีบอร์นเป็นผู้ใหญ่ แต่ภาพที่ปรากฏก็ยังเป็นตัวรีบอร์นที่ยังเป็นทารกอยู่ทุกครั้งรีบอร์นจะ ปรากฏตัวต่อหน้าผู้อื่นในหลากหลายรูปแบบ และมีชื่อแตกต่างกันออกไป


  

ซาวาดะ สึนะโยชินักเรียนชั้นมัธยมตอนต้นโรงเรียนนามิโมริ เรียนไม่เก่ง กีฬาก็ไม่ได้เรื่อง เพื่อนๆเรียกว่า เจ้าห่วยสึนะ เขาเป็นเหลนของรุ่นที่ 1 และได้เป็นรุ่นที่ 10 ของวองโกเล่ แฟมิลี่ อาวุธคือ ถุงมือที่มีรูปวงกลมอยู่ตรงกลางถุงมือ ที่ใช้กับธาตุนภาได้ใช้แหวนธาตุนภา มีวองโกเล่เกียร์ ( Vongola Gear ) ในภาคชิม่อนแฟมิลี่เป็นถุงมือเหล็กสีแดงขนาดใหญ่กับข้อหล็กที่ขาขวาเชื่อม ด้วยโซ่ ส่วนแหวนจะเป็นแหวน 2 วงที่เชื่อมกันด้วยโซ่ วงใหญ่จะเป็นรูปนัตสึ ( เลโอเน ดิ เชลี ) ของสึนะ





โกคุเทระ ฮายาโตะ เป็นนักเรียน แลกเปลี่ยนจาก อิตาลี มีฉายาว่า "เฮอริเคน บอมบ์ ฮายาโตะ" (ญี่ปุ่น: 隼人 Herriken Bomu Hayato ?) มีความหวังที่จะเป็น มือขวาของรุ่นที่10( ซาวาดะ สึนะโยชิ ) โดยเก็บระเบิดจำนวนมากไว้ทั่วร่างกาย ภายหลัง ดร.ชามาล ได้สอนวิธีการดัดแปลงการใช้ระเบิด ทำให้ระเบิดหักเลี้ยวได้สองครั้ง ใช้ชื่อว่า "ร็อคเก็ต บอมบ์" ทำให้นำเบลเฟกอลในศึกชิงแหวนได้ ( แต่ได้พ่ายแพ้ให้เบลเฟกอลไปในที่สุด ) ไฟธาตุวายุ ( สีแดง ) ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าจะได้อาวุธใหม่ชื่อว่า เฟรมแอโร้ ใช้ระเบิดเป็นแสงกระสุน ( แต่ตอนหลังใช้กระสุนที่ได้จากการเปิดกล่อง ซิสเทมม่า ซีเอไอ ) มีวองโกเล่เกียร์ ( Vongola Gear ) ในภาคชิม่อนแฟมิลี่เป็นระเบิดทั่วร่างกายพร้อมกับที่ยิงระเบิดที่มือขวา ส่วนแหวนได้ถูกพัฒนาเป็นเข็มขัดที่มีหัวเป็นรูปอุริ ( แพนเทร่า ดิ เทมเพสต้า ) ของโกคุเดระ



ยามาโมโตะ ทาเคชิ  เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่ 2 และเป็นนักเบสบอลของโรงเรียนนามิโมริ เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทกับสึนะหลังจากที่แข่งวอลเล่บอล สึนะก็แข่งด้วยจึงชนะ และเป็นเพื่อนสนิทของสึนะ และถูกรีบอร์นชักชวนเข้าวองโกเล่แฟมิลี โดยที่เจ้าตัวนึกว่าแค่เล่นกันเฉยๆเท่านั้น เป็นผู้พิท้กธ์แห่งพิรุณ ( ฝน,น้ำ ) ของสึนะ ในอีก 10 ปีต่อมากลายเป็นหนึ่งในสองคนที่เป็นนักดาบฝีมือฉกาจในวองโกเล่แฟมิลี่ 1 สเปลบี สคอลโล 2 ยามาโมโตะ ทาเคชิไฟธาตุพิรุน ( สีฟ้า )






ซาซางาวะ เรียวเฮ พี่ชายของเคียวโกะ เกิดวันที่ 26 สิงหาคม ฉายาตามในหนังสือการ์ตูนคือ"สุดหูรูด" ในเนื้อเรื่องคติประจำใจเรียวเฮคือ"สุดขั้ว" เป็นคนจริงจัง เป็นลูกศิษย์ของโคโรเนโร่ หนึ่งในอัลโกบาเลโน่ เป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอรุณ เนื่องจากมีความเจิดจ้าในตัวเอง สามารถใช้มือเปล่าต่อยก้อนหินขนาดยักษ์ให้แหลกละเอียดได้ โดยมีชื่อท่าว่า แม็กซิมั่มแคนน่อน 10ปีข้างหน้าได้คิดค้นท่า แม็กซิมั่มอินแกรม ไฟธาตุอรุณ(สีเหลือง) รหัสประจำตัวของเรียวเฮคือ 33 อาวุธ กล่อง แหวนแห่งอรุณ นวม ท่าไม้ตาย แม็กซิมั่มแคนน่อน แม็กซิมั่มอินแกรม





ฮิบาริ เคียวยะ ฮิบาริเป็นหัวหน้ากรรมการรักษาระเบียบของโรงเรียนม.ต้นนามิโมริ อายุ16 เกิดวันที่ 5 พฤษภาคม กรุ๊ปเลือด เอบี รักโรงเรียนและเมืองนามิโมริมาก ถึงขนาดใช้เพลงโรงเรียนนามิโมริเป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ มีอาวุธคือทอนฟา เกลียดการสุมหัวเพราะเจ้าตัวคิดอยู่เสมอว่า 'เพราะอ่อนแอเลยต้องอยู่รวมกันเป็นฝูง' มีคำติดปากคือ "ว้าว" และ "ฉันจะขย้ำแกให้ตาย (ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า Kamikorosu)" ซึ่งเป็นผู้พิทักธ์แห่งเมฆา ไฟธาตุเมฆา(สีม่วง)



แรมโบ้ เดิมทีแลมโบ้อยู่ใน โบวีโน่แฟมิลี่ ถูกส่งมาเพื่อฆ่ารีบอร์น แต่กลับลืมภารกิจของตัวเอง(ซะงั้น)และกลายมาเป็นผู้พิทักษ์ของวองโกเล่ ใส่ชุดลายวัวเปื้อนๆ ไว้ผมทรงแอ๊ฟโฟร่ มีเขาวัว ในผมของแรมโบ้มีสิ่งของเต็มไปหมดถึงรียกว่ามีขยะอยู่ในผม ใช้ระเบิด(ลูกเกลี้ยง)และเขาที่ใช้เรียกสายฟ้าเป็นอาวุธ ผิวของแรมโบ้สามารถให้สายฟ้าไหลผ่านได้(เป็นการปรับตัวจากการโดนฟ้าผ่าซ้ำ ซ้อน)เป็นผู้พิทักธ์แห่งอัสนี ไฟธาตุอัสนี(สีเขียวอ่อน)




โรคุโด มุคุโร่ ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยปริศนาและเกลียดมาเฟียอย่างมากที่ต้องการครอบครองร่าง ของสึนะเพื่อที่จะได้ทำลายมาเฟีย เขาให้ลูกน้องไปทำร้ายนักเรียนโรงเรียนนามิโมริ เพื่อล่อให้สึนะมาหาตนที่โกคุโยแลนด์ เขาสู้กับสึนะในโหมดไฮเปอร์และได้แพ้ไป มีความสามารถคือ ดวงตาวัฏสงสาร เป็นการดึงความสามารถจากทั้ง6พิภพ หลังจากที่พ่ายแพ้แก่สึนะและถูกวินดีเช่จับตัวไป เขาก็ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้พิทักษ์สายหมอกโดยใช้ร่างของโคลม โดคุโร ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเขา




โคลม โดคุโร (ชื่อเดิม นางิ) สาวน้อยอายุ 13 ปี สวมเครื่องแบบโรงเรียนโกคุโย ชื่อเดิมของเธอ คือ "นางิ" เธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเพราะเข้าไปช่วยเหลือแมวจนบาดเจ็บสาหัสทำให้สูญ เสียตาข้างขวาและอวัยวะภายในทั้งหมด ทำให้ต้องได้รับอวัยวะจากคนกรุ๊ปเลือดเดียวกันเพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่พ่อแม่ของเธอกลับไม่สนใจเพราะพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ จนในที่สุดระหว่างที่เธอกำลังจะตายนั้นเองโรคุโด มุคุโร่ ได้เข้ามายังความฝันของเธอ โดยจะมอบชีวิตให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปพร้อมกับได้รับความสามารถของมุคุโร่ มา(พิภพนรกและพิภพเดรัจฉาน)แต่เธอต้องให้เขาใช้ร่าง เธอเคารพมุคุโร่เป็นอย่างมาก และเรียกมุคุโร่ว่า ท่านมุคุโร่